" VW Thai สันจร "

คุณจุลเดชโต้โผได้เสนอ พวกเราว่า เราน่าจะจัดทริป สันจร ไปท่องเที่ยวตามต่างจังหวัด แลจะได้นำรถไปยืดสายกันบ้าง อยู่แต่ในกรุงเดี๋ยวจะเฉากันซะเปล่าๆ หลังจากที่ได้นัดแนะและกำหนดสถานที่เรียบร้อยแล้ว เราตกลงจะไปเยี่ยมบ้านพักตากอากาศที่สุพรรณบุรี ของคุณจุลเดชกัน โดย คุณจุลเดชรับหน้าที่เป็นไกด์กิตติมศักด์ จะสังเกตได้ว่าทุกท่านดูจะตื่นเต้นกับงานทริปนี้เป็นพิเศษ

เมื่อสรุปยอดจำนวนผู้ที่จะไปเที่ยวร่วมกัน มีดังต่อไปนี้
1.คุณพลจักร คนเดียวโดดๆ
2.คุณจุลเดชพร้อมแฟนสาวแสนสวย
3.คุณปกรณ์พลกับรถซิ่งคู่ใจ
4.คุณอนุรัตน์มากับครอบครัว home sweet home
5.คุณจิตติกับผบ.ที่บ้าน

จุดหมายปลายทางแรกได้แก่บ้านไร่ชายทุ่งอันร่มรื่น ของคุณจุลเดชครับ   หลังจากที่ได้ทำความเร็วไล่กวด และเร่งผ่านการจราจรแออัดมาเรียบร้อย ขบวนก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาทันที วิ่งตามติดกันไปเป็นขบวน ดูดีมากทีเดียวครับ โฟล์คเวนโต้ 4 คันตามติดกันไป ใครเห็นคงงง     หลังจากที่ได้พักเหนื่อย ดื่มน้ำ ชักรูปกันที่บ้านไร่ ของคุณจุลเดชเรียบร้อย Suphan_1ไกด์กิตติมศักดิ์รับเชิญ ของรายการนี้  ได้นำพวกเราไปที่ "ร้านอาหารบ้านดอน" รายการอาหารระดับเชลล์ชวนชิมอันได้แก่ ไก่บ้านรวนเค็ม, ลูกชิ้นปลากรายลวกพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด, ทอดมันปลากราย, ปลาช่อนแป๊ะซะ, ตามด้วยแกงจืดลูกชิ้นปลากราย ซดให้คล่องคอ งานนี้มีเมนูเด็ดที่ผู้เขียนไม่กล้าชิมคือ กบ ครับ จำไม่ได้ว่าเอากบไปทำอะไร แต่เห็นหลายๆท่านชื่นชอบ งานนี้เชลล์ขอลาครับ อร่อยมากครับ โดยเฉพาะ ลูกชิ้นปลากรายลวก ปลากรายล้วนๆครับ เนื้อแน่นเหนียว ไม่มีส่วนผสมของแป้งมาให้ระคายลิ้นแม้แต่น้อย บวกกับน้ำจ้ำ ที่มีรสชาด เปรี้ยวนำ เค็มตาม และ หวานปะแล่มๆ ทำให้อาหารจานนี้หมดลงอย่างรวดเร็ว

หลังจากอิ่มหมีพีมันกันเรียบร้อย จุดหมายต่อไปคือ วัดทับกระดาน อย่างที่เราๆท่านๆทราบ ก็คือว่า วัดนี้เป็นวัดที่มีผู้คนทั้งในท้องถิ่นและต่างถิ่น ให้ความสนใจมากเพราะเป็นวัดที่มีรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งของคุณพุ่มพวง ดวงจันทน์ ราชินีเพลงลูกทุ่ง ไหนๆพวกเราก็ได้มาสุพรรณทั้งที ก็อยากจะเห็นและแวะไปคาระวะ โดยส่วนตัวผมเองก็อยากขอเลขเด็ดบ้าง ถูกเมื่อไหร่จะได้นำเงินไปซ่อมสีรถซะหน่อย  วันที่พวกเราไป คนยังไม่เยอะเท่าไหร่ แต่กลิ่นธูปควันเทียน ไม่เคยจาง พร้อมกับ เสียงเขย่าเซียมซี ดังอย่างต่อเนื่อง  ทำให้ผมไม่รอช้าที่จะขอกับเค้าบ้าง โอมเพี้ยงๆๆ

จากวัดทับกระดาน ไปอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช คุณจุลเดชเกิดเหลือบไปเห็นทัศนียภาพข้างทางอันสวยงาม Suphan_4เหมาะแก่การถ่ายภาพ
วิญญาณตากล้อง รวมทั้ง วิญญาณผู้กำกับ ก็บังเกิด การจัดวางมุมกล้อง, ขยับรถให้เข้าเฟรม แล้วก็ แซ๊ะ แซ๊ะ สวยครับ รูปออกมาสวยมาก ไม่เชื่อลองดูซิครับ

ไปถึงอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรแล้ว ตามสไตล์ทัวร์ศาสนา (คุณปรกณ์พลเป็นคนตั้งชื่อให้) ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ , ขอพร  อ้อ ส่วนผมก็เซี่ยมเซียมขอเลขเด็ดตามระเบียบ พอเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว วิญญาณผู้กำกับมาอีกแล้วครับ ผมมีความตั้งใจที่จะนำรถโฟล์ค เวนโต้ ทั้ง 4 คัน มาเรียบอยู่หน้าลานอนุสาวรีย์ เพื่อชักภาพเป็นที่ระลึก แล้วก็สมใจอยากครับ ตอนนำรถมาเรียงกัน4คันแบบหน้ากระดาน เสียงพัดลมระบายความร้อนประสานเสียงคอรัส กันดังกระหึ่ม น่าเอ็นดูไปอีกแบบนะครับ ฮิฮิ  ชักภาพเสร็จเรียบร้อย ในใจผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารูปนี้จะต้องสวย แล้วฝันก็เป็นจริงครับ รูปนี้ถือเป็น hight light photo ของงานนี้ทีเดียวไม่เชื่อถามตากล้องมือโปร คุณจุลเดช และ คุณอนุรัตน์ รวมทั้งคุณจิตติดูได้ครับ งามจริงๆSuphan_4

สถานที่ต่อไปก็คือ วัดป่าเลไลย์ พอดีขณะนี้ทางวัดกำลังปิดซ่อมแซม บรูณะพระอุโบสถ หลวงพ่อโตอยู่ พวกเราเลยได้แต่นมัสการอยู่แต่ข้างนอก ก่อนขึ้นรถ คุณปกรณ์พล สะกิดถามคุณจุลเดชว่า งานนี้มีแวะไปซื้ออะไรบ้างป่าว แหม!! ต้องซื้อของไปฝากผบ.ทบ. นี่เอง แวะครับแวะ ร้านสาลี่สุพรรณอันลือชื่อนั้นเองครับ เป็นที่สุดท้ายสำหรับทริปนี้ แต่ละท่านก็ช๊อปปิ้ง ไปคนละถุงสองถุง  หลังจากพูดคุยและร่ำลากันเรียบร้อยก็ขับเข้ากรุงเทพฯ กันครับ เห็นคุณจิตติจอดแวะช๊อปปิ้งข้างทางอีก ส่วนคุณปกรณ์พล เหยียบมิดครับ หายไปเลย เร็วพอๆกับคุณอนุรัตน์เลยแฮ่ะ

สรุป งานนี้ได้ทั้งความบันเทิง ความสนุก อิ่มบุญ พร้อมอิ่มท้อง กันไปตามๆกัน
ขอบคุณคุณจุลเดช ไกด์กิตติมศักดิ์ รวมทั้ง ลูกทัวร์ทุกท่านครับ งานนี้จะไม่ครบสมบูรณ์ได้เลยถ้าขาดพวกเรา และ special thanks เป็นพิเศษ สำหรับ ไกด์กิตติมศักดิ์รับเชิญอีกท่าน สำหรับการแนะนำอาหารอร่อยๆ และ แนะนำสถาที่เที่ยว รวมทั้งมุขตลกต่างๆที่ได้กรุณาเล่าให้พวกเราได้ฟัง
พบกับเรื่องสนุกๆแบบนี้ได้ ในVW สันจรครั้งหน้าครับ